ชีวิตที่ขับเคลื่อนด้วยอนาคต

โดย ปฐมสุดา อินทุประภา และ ธันยกร อารีรัชชกุล

ดร. มนตรี อัตถทิพพหลคุณ นักพัฒนาธุรกิจอาวุโส  แห่งสำนักจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม  ผู้เป็นตัวแทนสิทธิบัตร ของ วว. ผ่านร้อนผ่านหนาวร่วมกับ วว. มานานถึง 31 ปี และในปี 2560 นี้ ดร. มนตรี หรือพี่มนตรีก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า พี่มนตรีไม่ได้เป็นเพียงนักพัฒนาธุรกิจอาวุโส หรือตัวแทนสิทธิบัตร แต่ยังเป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ นักกิจกรรม และนักกีฬา อีกด้วย เรามาฟังประสบการณ์และแนวคิดจากการทำงานที่น่าสนใจจากพี่มนตรีกัน

ประสบการณ์ในการทำงาน

“เริ่มต้นเลยพี่เป็นอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ เพราะพี่เรียนวิทยาศาสตร์เอกเคมีมาตั้งแต่ปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ แล้วก็มาต่อปริญญาโทควบเอกด้านอินทรีย์เคมีที่มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งก็จบภายใน 3 ปีครึ่งนะ มีผลงานตีพิมพ์ 7 papers ในระดับนานาชาติด้วย (หัวเราะ) คือ พี่ชอบเรียน จริงๆ แล้วพี่มีแนวคิดที่อาจแปลกกว่าคนอื่น คือ พี่คิดว่าการเรียนไม่ใช่จะเอาความรู้มาใช้งาน แต่เป้าหมายหลัก คือ การพัฒนาสมอง ให้หัดวิเคราะห์และแก้ปัญหา เพราะฉะนั้นพี่จะสนุกกับชีวิตการเรียนวิทยาศาสตร์มาก มากจนถึงขั้นไปเรียน Postdoctoral ที่ University of Massachusetts  ที่สหรัฐอเมริกาเลยนะ (หัวเราะ) ชีวิตช่วงระหว่างเป็นนักศึกษาพี่ก็ทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัยเยอะเลย เป็นทั้งนักบาสเกตบอล ทั้งนักเทนนิส สนุกและมีความสุขมาก พอมาทำงานที่ วว. ในตำแหน่งนักวิชาการประจำฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ สักพักพี่ก็เริ่มสนใจสายงานด้านบริหาร เลยเปลี่ยนสายงานมาเป็นนักวิชาการสำนักจัดการโครงการ และพอตอนหลังมีเรื่องเกี่ยวกับสิทธิบัตรเข้ามาใน วว. พี่ก็ได้รับโอกาสให้ไปอบรมเรื่องนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น พอจบหลักสูตรฝึกอบรมกลับมาก็มาสอบขึ้นทะเบียนเป็นตัวแทนสิทธิบัตร พี่เลยทำงานด้านนี้ให้ วว. เรื่อยมา แต่นอกเหนือจากงานพี่ก็ยังเป็นนักกิจกรรมของ วว. ด้วย ซึ่งที่โดดเด่นก็คือพี่เป็นคนบุกเบิกให้ วว. เข้าแข่งขันในกีฬารัฐวิสาหกิจ เพราะพี่ชอบเล่นกีฬา (หัวเราะ)”

แนวทางในการปรับตัวในการทำงาน

“จริงๆ ก็ไม่มีอะไรมากนัก การปรับตัวในการทำงาน พี่มีแนวคิดว่า เราต้องขับเคลื่อนชีวิตเราด้วยอนาคต ไม่ใช่ด้วยอดีต ไม่ใช่ด้วยปัจจุบัน เราต้องมองและตั้งเป้าหมายในอนาคตไว้ ตั้งสูงไว้ก่อน ได้ไม่ได้ไม่เป็นไร เพราะถ้าเราตั้งเป้าหมายเอาไว้สูง เราจะได้พยายามพัฒนาตัวเองสู่จุดที่สูงกว่าเดิม ท้าทายตัวเอง แต่เราต้องทำมันอย่างมีความสุขนะ ถ้ามีปัญหาก็อย่ามองแต่ปัญหา พยายามมองออกไปไกลๆ กว้างๆ แล้วเราจะเห็นว่าปัญหาของเรามันเล็กนิดเดียว อีกอย่างเราควรเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต เพื่อ fulfill  ชีวิต อย่างตอนที่ทำงาน วว. ช่วงหนึ่งพี่มีโอกาสได้ไปทำงานที่กระทรวงวิทย์ฯ ไปทำหน้าที่ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งตอนนั้น คือ ท่านประวิทย์ รัตนเพียร ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีมาก เป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขอีกช่วงหนึ่ง เป็นประสบการณ์ชีวิตใหม่ ท่านประวิทย์ เป็นคนก็ขยันมาก ท่านไม่ถือตัว ทีมงานก็เก่ง ทุกคนทำงานกันด้วยความสุข พี่ดีใจที่ได้รับโอกาสให้ไปช่วยท่าน ไปให้คำปรึกษาท่านด้านข้อมูลวิทยาศาสตร์ ความเป็นไปได้ของการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ แต่ตอนนั้นก็ต้องปรับตัวเยอะนะ เพราะแต่ละวันตารางท่านจะแน่น ไปไหนแต่ละทีพอเสร็จภารกิจ ท่านขึ้นรถปุ๊ป ทีมงานก็ต้องรีบขึ้นรถ เพราะต้องไปที่อื่นต่อ พี่ก็มัวแต่ยืนดูโน่นนี่ เพลินก็เคยตกรถด้วย (หัวเราะ) ตอนหลังเราก็เรียนรู้ ปรับตัวใหม่ในเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้ตกขบวน (หัวเราะ)”

แนวทางในการถ่ายทอดความรู้

“เรื่องการเขียนสิทธิบัตรเป็นเรื่องยากนะ โดยเฉพาะตรงเรื่องข้อถือสิทธิ เพราะมันคือ Innovation พูดอย่างไร เขียนอย่างไรให้คน copy ไปไม่ได้ สิทธิบัตร วว. นี่ก็มี ปีละ 50 กว่าเรื่อง การจะถ่ายทอดความรู้ตรงนี้ ทีมรับถ่ายทอดเองต้องมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์ทุกสาขา เพราะหน่วยงานเราคือ หน่วยงานวิทยาศาสตร์ นวัตกรรมของเราคือ ผลงานวิทยาศาสตร์ที่มีความเกี่ยวเนื่องในหลากหลายสาขา การถ่ายทอดความรู้ด้านนี้ มันต้องใช้เวลาสร้างคน สร้างทีม ต้องทำในลักษณะ on the job training  เพราะการเขียนข้อถือสิทธิมันซับซ้อนต้องมีทั้งความรู้วิทยาศาสตร์ และต้องเข้าใจหลักกฎหมายด้วย ดังนั้นมันจึงต้องใช้เวลาฝึกฝนทีม ซึ่งพี่ก็ยินดีกลับมาช่วย  หากวว. มีปัญหาด้านนี้”

สิ่งที่อยากจะฝากไว้

“คติของพี่คือ คนเราต้องเลือก track หรือทางเดินที่เรามีความสุข อยู่ตรงนั้นแล้วต้องมีความสุข เพราะถ้าเราไม่มีความสุข สมองจะไม่พัฒนา นอกจากนี้เราทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ให้ดีที่สุดด้วยครับ และอย่าลืมว่า จงขับเคลื่อนชีวิตด้วยอนาคต อย่างพี่ตอนนี้อนาคตหลังเกษียณคือ การเป็นโปรกอล์ฟ ซึ่งปีหน้านี้ พี่ก็มีสิทธิเทิร์นโปรแล้วนะ (หัวเราะ)”

น้ำเสียงแห่งความสุขและเสียงหัวเราะ ของ ดร. มนตรี ตลอดระยะเวลาการสัมภาษณ์ ทำให้ช่วงเวลาการสัมภาษณ์เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ความคิด มุมมองในแง่บวก และการขับเคลื่อนชีวิตด้วยเป้าหมายในอนาคตจะเป็นแรงบันบาลใจให้พวกเราชาว วว. ขับเคลื่อน วว. ไปข้างหน้าด้วยกัน

 

ใส่ความเห็น