ไม่ยึดติดกับอดีต ไม่กังวลกับอนาคต

โดย ปฐมสุดา อินทุประภา

พี่วินัย กิจโมกข์ นักทรัพยากรบุคคล สังกัดกองพัฒนาบุคคล สำนักบริหารทรัพยากรบุคคล ผู้ไม่ยึดติดกับอดีตและไม่กังวลกับอนาคต  พี่วินัยเริ่มทำงานกับ วว. มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2523 ในฐานะลูกจ้าง และได้บรรจุเข้าเป็นพนักงานในปี พ.ศ. 2533 และในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2560 นี้ พี่วินัยก็จะเกษียณอายุราชการและไปพักผ่อนกับครอบครัวแล้ว  แต่ก่อนที่พี่วินัยจะเกษียณนั้น เรามาฟังพี่วินัย เล่าถึงประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมากันดีกว่าค่ะ

ประสบการณ์ในการทำงาน

“เริ่มแรกเลยพี่จบอนุปริญญาด้านก่อสร้างที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม แล้วเพื่อนชวนมาสมัคร ก็มาเป็นลูกจ้างอยู่ฝ่ายเทคโนโลยีการก่อสร้างอยู่ 10 ปีเลย จากนั้นพอ วว. เปลี่ยนโครงสร้าง ฝ่ายก็เปลี่ยนชื่อไป 2-3 ครั้ง จนในที่สุดก็เปลี่ยนเป็นฝ่ายถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งตอนนั้นพี่ก็รับผิดชอบงานการผลิตและก่อสร้างอาคารด้วยบล็อกประสาน วว. พี่จะเชี่ยวชาญเรื่องบล็อกประสานมาก ทั้งกระบวนการผลิต กระบวนการก่อสร้าง กระบวนการเลือกวัตถุดิบที่จะมาผลิต รวมทั้งเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตบล็อกประสาน วว. ด้วย ซึ่งพี่ก็ได้ไปถ่ายทอดให้แก่ มหาวิทยาลัย อบต. ประชาชนทั่วไป กลุ่ม OTOP  โดยพี่ไปเป็นวิทยากรแทบจะทั่วประเทศเลย เพราะช่วงนั้นบล็อกประสาน วว. ของเรา มันบูมมาก พี่กับทีมก็ต้องเดินสายไปบรรยายกันทั่วประเทศ ซึ่งตอนแรกๆ ก็บรรยายยังไม่เก่ง พี่ก็หาความรู้เพิ่มเติม ก็ได้เรียนรู้เทคนิคจากพี่ๆ ในทีม ถามพี่ๆ บ้าง ครูพักลักจำบ้าง จำสไตล์เขามาบ้างอะไรบ้าง แล้วก็มาประยุกต์กับสไตล์ มันสนุกดี เพราะตอนนั้นทีมพี่เราอยู่กันแบบพี่ๆ น้องๆ ไม่มีการเรียก ผอ. เรียกกันแต่พี่ๆ คือเราอยู่แบบลำบาก ก็ลำบากด้วยกัน สุข ก็สุขด้วยกัน ไม่มีเจ้านาย มีแต่พี่ๆ กับน้องๆ มีปัญหาอะไรก็ถาม คุยปรึกษาหารือกันฉันท์พี่น้อง”

แนวทางในการปรับตัวในการทำงาน

“ทำวันนี้ให้ดีที่สุด เราอย่าไปยึดติดกับอดีต อย่าไปกังวลกับอนาคต เราทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพราะชีวิตย่อมมีการเปลี่ยนแปลง อย่างพี่เคยทำบล็อกประสาน วว. มาในช่วงที่มันบูมมากๆ แต่ต่อมาพอมันเริ่มนิ่งๆ อยู่ตัว พี่ก็ต้องปรับตัว  แล้วตอนนั้นฝ่ายถ่ายทอดเทคโนโลยีก็กลายมาเป็นฝ่ายนวัตกรรมวัสดุ เราก็ต้องปรับตัว พี่ก็มีการเรียนเพิ่มเติม หาความรู้ใหม่ๆ พี่จึงเปลี่ยนสายงานไปเลย เพราะพี่สนใจด้านรัฐประศาสนศาสตร์ด้วย ก็เลยไปเรียนต่อที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์หรือนิด้า จนจบปริญญาโททางด้านนี้ และได้ย้ายไปที่กองพัฒนาบุคคล ก็ไปจับงานใหม่ ซึ่งพี่รับผิดชอบงานด้าน Organization Development, Change management และเรื่องค่านิยมองค์กร ซึ่งพี่ก็จะต้องจัดทำแผนงาน และทำโครงการต่างๆ ขึ้นมาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กร ไปในทิศทางที่เราตั้งเป้าไว้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ทีมเราก็ตั้งใจทำ ซึ่งโครงการต่างๆ ที่เราทำแผนไว้ก็เริ่มดำเนินการกันไปบ้างแล้ว แต่ก็ต้องใช้ระยะเวลาในการสร้างความเปลี่ยนแปลง”

แนวทางในการถ่ายทอดความรู้

“ก่อนพี่จะย้ายมาสังกัดกองพัฒนาบุคคล พี่ก็ได้มีการถ่ายทอดความรู้ไปแล้ว โดยให้รุ่นน้องๆ ที่มาทำบล็อกประสาน วว. ต่อ ซึ่งก็คือ คุณวุฒินัย กกกำแหง นักวิจัย ประจำศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมวัสดุ คือเขาเป็นหนึ่งทีมที่เคยร่วมทำงานกับพี่ เขาเป็นวิศวกร ซึ่งเขาก็จะเชี่ยวชาญทางด้านโครงสร้างการรับน้ำหนัก เราก็แลกเปลี่ยนความรู้กัน เพราะพี่จะเก่งด้านเทคนิคการก่อสร้าง เรื่องการเลือกวัตถุดิบ พี่ก็ถ่ายทอดความรู้โดยการทำให้เขาดู เขาถามเรา เราทำเขาบ้าง น้องเขาก็เป็นคนน่ารัก ให้เกียรติเรา เราก็คุยแลกเปลี่ยนความรู้กัน ในลักษณะที่พี่รุ่นพี่เก่าๆ เคยถ่ายทอดให้พี่ คือเป็นแบบพี่น้อง เราไม่ได้มีการทำอะไรเป็นทางการ เราจะพูดคุยกัน ทำให้ดูในหน้างาน จะเป็นลักษณะแบบนั้นมากกว่า”

สิ่งที่อยากจะฝากไว้

“ก่อนอื่นพี่อยากขอขอบคุณ วว. ที่ให้ชีวิตที่ดี ให้ครอบครัวที่ดี ให้เพื่อนร่วมงานที่ดี ถึงแม้จะสมหวังบ้างผิดหวังบ้าง แต่ วว. ก็ให้ชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนกับพี่ นอกจากนี้ พี่ก็อยากจะฝากบอกน้องๆ ไว้ว่า ไม่มีใครจะผิดไปเสียทุกอย่าง และไม่มีใครจะถูกไปเสียทุกอย่างเช่นกัน ดังนั้นเราต้องเมตตากัน ให้อภัยกัน ทำดีกับเพื่อนร่วมงาน ทำงานเป็นทีมเพื่อเป้าหมายองค์กร  ทีมต้องมาก่อนเรื่องส่วนตัว และอย่าลืมนอบน้อมกับผู้ใหญ่ และยิ้มเข้าไว้ทั้งหน้าและจิตใจนะครับ”

 

ใส่ความเห็น