รู้จักบล็อกเชนและการนำไปประยุกต์ใช้

โดย ธันยกร อารีรัชชกุล และ ดร. ปฐมสุดา อินทุประภา กองพัฒนาและจัดการความรู้องค์กร

 

โดยปกติเมื่อเราทำธุรกรรมออนไลน์ สิ่งหนึ่งที่เราต้องการความเชื่อมั่นก็คือ ความน่าเชื่อถือเวลาทำธุรกรรม ถ้าสังเกตจะเห็นว่ามีข้อความว่า  Secured by หรือ Protected by แล้วตามด้วยชื่อบางอย่าง  ชื่อที่ตามหลังมาก็คือ ตัวกลางที่ทำหน้าที่คอยตรวจสอบความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรม

ความน่าเชื่อถือ (Trust) เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องตระหนักทุกครั้งในการทำธุรกรรม มิฉะนั้นข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้บันทึกลงไปในระบบออนไลน์ต่าง ๆ จะเชื่อถือและมั่นใจได้อย่างไรว่า จะไม่รั่วไหลหรือถูกทำการเปลี่ยนแปลง

เทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่นำมาซึ่งความปลอดภัย น่าเชื่อถือ โดยไม่ต้องอาศัยคนกลาง ทำให้สามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ประหยัด รวดเร็ว โดยมีคำกล่าวไว้ว่า “transfer of trust in a trustless world” เพราะแม้ทั้งสองฝ่ายจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ก็สามารถแลกเปลี่ยนติดต่อข้อมูลได้ด้วยความมั่นใจ

การทำงานของบล็อกเชน เป็นรูปแบบการเก็บข้อมูล (Data structure) ทำให้ข้อมูลของแต่ละคน (Digital transaction) สามารถส่งต่อไปยังทุก ๆ คนได้ แบบห่วงโซ่ (Chain) นั่นเอง ส่งผลให้ข้อมูลแต่ละส่วนที่เรียกว่า Block ของข้อมูลสามารถเชื่อมโยงต่อไปยังทุก ๆ คนได้ โดยที่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของและมีสิทธิในข้อมูลส่วนนั้นจริง ๆ

เมื่อ block ของข้อมูลได้ถูกบันทึกไว้ใน Block chain แล้ว มันจะยากต่อการเปลี่ยนแปลงมาก เมื่อต้องมีการแก้ไขข้อมูล  ทุก ๆ คนในเครือข่ายจะมีสำเนาของ Block chain อยู่ สามารถทำการตรวจสอบโดยวิธีที่ออกแบบไว้ (Algorithm) เพื่อตรวจสอบ Transaction โดยจะได้อนุญาตให้แก้ไขก็ต่อเมื่อเครือข่ายส่วนใหญ่เห็นชอบว่ามันถูกต้องผ่านการตรวจสอบแล้วนั่นเอง

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งาน

บล็อกเชนติดตามอาหาร (advanced food tracking and packaging)

องค์การอนามัยโลกประมาณ 600 ล้านคนต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคอาหารเป็นพิษและ 420,000 คนเสียชีวิต เมื่อเกิดการระบาดผู้ตรวจสอบสามารถใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ในการติดตามแหล่งที่มา ในขณะเดียวกันผู้คนจำนวนมากสามารถทำให้ป่วยและอาหารที่ไม่ปนเปื้อนจำนวนมากอาจถูกทิ้งไปพร้อมกับสิ่งปนเปื้อน การค้นหาแหล่งที่มาสามารถทำงานได้ช้าเนื่องจากอาหารเดินทางเส้นทางที่ซับซ้อนจากฟาร์มไปที่โต๊ะและบันทึกของการเดินทางเหล่านั้นถูกเก็บไว้ในระบบท้องถิ่นที่มักไม่รองรับสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคนอื่น

เทคโนโลยีที่ใช้ร่วมกันสามารถลดทั้งอาหารเป็นพิษและของเสียจากอาหาร นวัตกรรมแรกของเทคโนโลยีบล็อกเชน (รู้จักกันดีในการจัดการสกุลเงินเสมือนจริง) เริ่มแก้ไขปัญหาการตรวจสอบย้อนกลับได้ ขณะเดียวกันบรรจุภัณฑ์อาหารที่ปรับปรุงแล้วกำลังเสนอวิธีการใหม่ในการพิจารณาว่าอาหารถูกเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสมหรือไม่และอาจเริ่มทำให้เสียหรือไม่

 

Blockchain เป็นระบบบัญชีแบบกระจายอำนาจ (decentralized accounting system) ซึ่งรายการจะถูกบันทึกตามลำดับใน “บัญชีแยกประเภท” หลายรายการที่จัดเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ในหลาย ๆ ที่ ความซ้ำซ้อนนี้ทำให้การแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลโดยพลการยุ่งยาก และยังสร้างความเชื่อถือการทำธุรกรรมให้สูงขึ้นอีกด้วยระบบ blockchain ที่อยู่บนระบบ cloud ที่พัฒนาขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร ก็คือ  IBM Food Trust ได้รับการว่าจ้างจากผู้ขายอาหารรายใหญ่แล้ว (หนึ่งในนั้นคือ Meyerson ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ IBM)             ด้วยการบูรณาการของผู้ปลูก ผู้จัดจำหน่ายและผู้ค้าปลีกในบล็อกเชนร่วมกัน Food Trust สร้างระเบียนที่เชื่อถือได้สำหรับเส้นทางอาหารที่กำหนดผ่านห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นจนจบ ในการทดสอบโดยใช้เทคโนโลยี Walmart ตรวจสอบที่มาของรายการ “ที่ปนเปื้อน” ในไม่กี่วินาที ด้วยความสามารถนี้ผู้ค้าปลีกและร้านอาหารสามารถลบรายการที่ปนเปื้อนออกจากการไหลเวียนในทันทีและทำลายเฉพาะสต็อคที่มาจากแหล่งเดียวกัน แทนที่จะเสียสต็อกทั้งหมดของประเทศ ยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจอาหารหลายแห่ง ได้แก่ Walmart, Carrefour, Sam’s Club, Albertsons Companies, Smithfield Foods, BeefChain, Wakefern Food (ผู้ปกครองของ ShopRite) และ Topco Associates (องค์กรจัดซื้อกลุ่ม) – ได้เข้าร่วม IBM Food Trust องค์กรอื่น ๆ ได้แนะนำเทคโนโลยี blockchain เพื่อเพิ่มความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับ             เพื่อป้องกันการเกิดอาหารเป็นพิษเริ่มต้นที่ห้องปฏิบัติการวิจัยและบริษัท กำลังพัฒนาเซ็นเซอร์ขนาดเล็กที่สามารถตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร ตัวอย่างเช่น Timestrip UK และ Vitsab International ได้สร้าง Tag censor ที่เปลี่ยนสีหากผลิตภัณฑ์ได้รับการสัมผัสกับอุณหภูมิที่แนะนำข้างต้นและ Insignia Technologies จำหน่ายเซ็นเซอร์ที่ค่อยๆ เปลี่ยนสีหลังจากเปิดแพคเกจและถึงเวลาที่กำหนด (สีจะเปลี่ยนเร็วขึ้นหากผลิตภัณฑ์ไม่ได้ถูกเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม) นอกเหนือจากการป้องกันการเจ็บป่วย ยังสามารถลดขยะโดยแสดงให้เห็นว่าอาหารปลอดภัยที่จะกิน ค่าใช้จ่ายยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับการใช้งานเซ็นเซอร์ที่แพร่หลาย ถึงกระนั้นอุตสาหกรรมอาหารก็จำเป็นที่จะต้องรับรองความปลอดภัยของอาหารและการจำกัดปริมาณขยะซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนเทคโนโลยีนี้และบล็อกเชนต่อไป

ที่มา

https://techsauce.co/tech-and-biz/understand-blockchain-in-5-minutes/

 

ใส่ความเห็น