ถอดบทเรียนการจัดกลุ่มชุมชนนักปฏิบัติ (CoPs) ประจำปี 2558 ด้านการฝึกอบรม

เรียบเรียงโดย นางนพวรรณ หาแก้ว

กองจัดการความรู้

>>>>>

หลักการและเหตุผล

การให้บริการด้านฝึกอบรมของ วว. มีหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทั้งการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรภายใน วว. การฝึกอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรภาครัฐและเอกชน เพื่อถ่ายทอดความรู้ เผยแพร่ผลงานวิจัย พัฒนา และบริการเพื่อหารายได้ ซึ่งได้แก่ กองจัดการความรู้ ศูนย์ความรู้, กองพัฒนาบุคคล ฝ่ายทรัพยากรบุคคล, ศูนย์ทดสอบและมาตรวิทยา, ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย, สำนักรับรองระบบคุณภาพ, ศูนย์พัฒนาและวิเคราะห์สมบัติของวัสดุ, ฝ่ายวิศวกรรม และฝ่ายนวัตกรรมวัสดุ ที่มีการให้บริการฝึกอบรมในบางหลักสูตรอีกด้วย

เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและกระตุ้นการมีส่วนร่วมของบุคลากร วว. โดยเฉพาะผู้ที่ทำหน้าที่ให้บริการฝึกอบรม  ศคร., โดย กจค. ดำเนินการจัดตั้งกลุ่มชุมชนนักปฏิบัติ : ด้านการฝึกอบรม ขึ้น เพื่อให้เกิดการพัฒนางานฝึกอบรมของ วว. อย่างระบบ และบูรณาการทำงานร่วมกันของผู้ที่ทำหน้าที่ให้บริการฝึกอบรม   ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานให้บริการฝึกอบรมของ วว. มีการจัดการที่เป็นระบบ  เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและออกแบบหลักสูตร  การสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภายใน และเครือข่ายวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานภายนอก   รวมถึงการมีฐานข้อมูลลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น  เป็นโอกาสในการนำเสนอหลักสูตรที่เป็น package สนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นตามความเชี่ยวชาญของ วว.   โดยกำหนดจัดกิจกรรม 2 ครั้งในรอบปีงบประมาณ 2558 เมื่อวันที่  29 มิถุนายน 2558 และวันที่ 31 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา

บทเรียนและความรู้ด้านการฝึกอบรม

: ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558

ประเด็น/สภาพปัญหา แนวทางการพัฒนา ปรับปรุงงาน

1. นโยบายการฝึกอบรมเพื่อแสวงหารายได้ของ วว.  ซึ่งกำหนดเป็นตัวชี้วัด KPI ของกลุ่มบริหารยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ในด้านการว่าจ้างวิทยากร/ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกและเนื้อหาหลักสูตรที่อยู่ในขอบข่าย ที่สามารถดำเนินการได้ตามภารกิจหน้าที่

  • นโยบายการฝึกอบรม พิจารณาจาก พ.ร.บ. และภารกิจกองจัดการความรู้ (กจค.) เห็นควรให้มีการพิจารณาจัดการฝึกอบรมถ่ายทอดความรู้จากบุคลากรภายในทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยปรับตัวชี้วัดจากการหารายได้เป็นจำนวนหลักสูตร/จำนวนรายผู้เข้าอบรม/กลุ่มชุมชน/ผลการถ่ายทอด

2. วิทยากรภายในที่จะถ่ายทอดความรู้ด้าน ว&ท มีจำนวนจำกัด จากการประสานงานทาบทามที่ผ่านมา พบว่าบางคนไม่มีความพร้อม/ความมั่นใจในการเป็นวิทยากร บางคนไม่มีเวลา และไม่มีตัวชี้วัดที่กำหนดเป็น KPI ที่ระบุให้นักวิจัยต้องให้ความร่วมมือทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้สู่สาธารณะ จึงไม่ให้ความสำคัญในการมาเป็นวิทยากรอบรมเท่าที่ควร

  • วิทยากร วว.  ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ เห็นควรให้กองพัฒนาบุคคลพิจารณาจัดฝึกอบรมในหลักสูตรต่างๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพในด้านบุคลิกภาพ  เทคนิคการนำเสนอ เพื่อเพิ่มบรรยากาศการเรียนรู้  และสร้างความประทับใจให้ผู้รับการอบรม จนสามารถสร้างชื่อเสียงและผลงานเป็นที่ยอมรับ

 

3. ชื่อเสียง วว. ยังมีการประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึง  วิทยากร วว. และไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก

 

  • ประเด็นด้านชื่อเสียง วว. เห็นควรให้พิจารณาหาช่องทางการประชาสัมพันธ์ วว. และหลักสูตรการฝึกอบรมทางสื่อใหม่หรือสื่อออนไลน์ มีการฝากหลักสูตรต่างๆ Link Web วว. ไว้กับ Web กลุ่มเป้าหมาย หรือเครือข่ายพันธมิตร  รวมถึงสรรหาวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญเพิ่ม  โดยการเข้าร่วมงานสัมมนาต่างๆ ที่จัดขึ้น เพื่อเป็นอีกช่องทางในการเผยแพร่ผลงานและชื่อวิทยากร วว. ให้เป็นที่รู้จักและติดตลาดความรู้  รวมถึง

4. หัวข้อหลักสูตรยังไม่มีการพัฒนาให้ตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน

  • จากการทดลองใช้งานตามระบบ ISO 29990 : 2010 ของหน่วยงานที่ให้บริการฝึกอบรมของ วว. ทั้ง 5 หน่วยงาน  เห็นควรให้เพิ่มหลักสูตรและวิทยากรให้มากขึ้น

5. การให้บริการด้านการฝึกอบรมใน วว. มีหลายหน่วยงานย่อยที่รับผิดชอบ โดยไม่เป็นศูนย์การประสานงานที่เป็นหนึ่งเดียว

  • การจัดตั้งศูนย์กลางการจัดฝึกอบรมที่เป็นหนึ่งเดียว เสนอให้ผู้บริหารพิจารณาจัดตั้ง Training Center เพื่อความชัดเจนของระบบการบริหารการจัดการบริการฝึกอบรม เน้นการหารายได้

: ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม  2558

ประเด็น/ปัญหา แนวทางการพัฒนา ปรับปรุงงาน

1. การปรับปรุงฐานข้อมูลลูกค้า/การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์หลักสูตร

  • นอกจากหลักสูตรที่เป็น Public Training ที่ วว. จัดเป็นประจำอยู่แล้วนั้น ปัจจุบันมีการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น อาจต้องขยายไปดำเนินการเชิงรุกและจัดหลักสูตรที่เป็น In-house Training เพิ่มเติม เพื่อรองรับต่อการดำเนินงานระบบคุณภาพ ISO 29990 : 2010 ในอนาคต
  • เพิ่มช่องทางในการนำเสนอหลักสูตรอบรมของ วว. ที่เป็น package  จากกรณีที่กลุ่มบริการอุตสาหกรรม (บอ.) ดำเนินการจัด Road Show นำเสนอผลงานแก่ภาคอุตสาหกรรม สามารถที่จะดึงหลักสูตรด้านอื่นของ วว. ไปร่วมด้วย เนื่องจากมองเห็นว่าภาคอุตสาหกรรมยังต้องการพัฒนาทักษะของบุคลากรควบคู่ไปกับความเชี่ยวชาญด้านวิชาการ  โดยเรื่องนี้ผู้บริหารแต่ละหน่วยงานอาจต้องหารือร่วมกันและดำเนินงานตามความร่วมมือ น่าจะบังเกิดผลลัพธ์ในภาพรวม และเป็นการขยายโอกาสให้ วว. ต่อเชิงธุรกิจมากขึ้น

2. การติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงระบบลงทะเบียนออนไลน์

  • วว. เปิดใช้งานระบบลงทะเบียนออนไลน์มาระยะหนึ่ง โดยส่วนใหญ่เป็นลูกค้าของ ศทม. และ ศพว. ที่สมัครผ่านระบบ ส่วน ศบท. สรร. และ กจค. ยังคงใช้ช่องทางการรับสมัครตามรูปแบบเดิม ควบคู่ไปกับระบบลงทะเบียนออนไลน์  ซึ่ง กสส. จะพัฒนาระบบฯ ให้เหมาะสมและรองรับกับการใช้งานในอนาคตมากขึ้น
3. ความคืบหน้าการดำเนินงานตามระบบ ISO 29990 : 2010
  • ควรพัฒนาหลักสูตรอบรมที่ลงทะเบียนไว้ในระบบ ISO 29990 : 2010 ให้มีจำนวนหลักสูตรมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่กลุ่มเป้าหมายทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคการศึกษา ในการตัดสินใจเข้ารับการอบรมกับ วว.
  • ควรสร้างวิทยากรใหม่ๆ ขึ้นมารองรับระบบ ISO 29990 : 2010  โดยพัฒนาทักษะการเป็นวิทยากรให้มีความพร้อมและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่เป็นเลิศ จะช่วยตอบโจทย์ให้กับการทำหน้าที่บริการฝึกอบรมของ วว. ต่อไปในอนาคต

สรุปผลและประโยชน์ของกิจกรรม

 

จากการจัดกิจกรรม CoPs ด้านฝึกอบรม ทั้ง 2 ครั้ง ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากผู้บริหาร วว.    ที่กำกับดูแลการให้บริการด้านฝึกอบรมและบุคลากรผู้ปฏิบัติหน้าที่ ในการเข้าร่วมพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นให้เกิดการพัฒนา ปรับปรุง และแนวทางการดำเนินงานในอนาคตไปไปทิศทางเดียวกัน เกิดการบูรณาการการทำงานในมิติใหม่ๆ ที่ วว. ไม่เคยลงมือปฏิบัติมาก่อน นับเป็นโอกาสอันดีที่กิจกรรม CoPs เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยปรับมุมมอง และเปลี่ยนวิธีการ/กระบวนการที่จะก่อให้เกิดความชัดเจนในการทำงานร่วมกันและเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนงานด้านการให้บริการฝึกอบรมไปสู่เป้าหมายและบรรลุวิสัยทัศน์ของ วว. ในอนาคต ซึ่งสรุปประโยชน์ของกิจกรรมที่ได้ดำเนินการ  ดังนี้

  1. เกิดแนวทางปฏิบัติให้บุคลากร วว.  รวมกลุ่มแยกตามทักษะ ประสบการณ์ ความสนใจแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ ร่วมกัน
  2. เป็นแนวทางการค้นคว้าหาความรู้ สร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น รวมถึงการแก้ไขปัญหา และการนำใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน
  3. เกิดเป็นชุมชนนักปฏิบัติ (CoPs : Community of Practice) ถือเป็นรากฐานสำคัญในการจัดการความรู้ และขับเคลื่อนสู่เป้าหมายองค์กร

ใส่ความเห็น